วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เกาะสีชัง

เกาะสีชัง
สถานต่างอากาศที่มีชื่อเสียง;เกาะสีชังเป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมานานนับร้อยปีจนถึงปัจจุบัน มีธรรมชาติความงดงามแตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มีบรรยากาศที่สงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ ท่องเที่ยวอันงดงาม เกาะสีชังเป็นท้องที่ที่มีความสำคัญทาประวัติศาสตร์เพราะเป็นสถานที่ประทับ ของพระเจ้า แผ่นดินถึง 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ซึ่งมีหลักฐานปรากฏจากพระนามาภิไธยหลาย แห่ง และ รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานบนเกาะขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นสถานที่ประทับใน ฤดูร้อน และพระราช ทานนามว่า พระจุฑาธุชราชฐาน ตามพระนามพระราชโอรสที่ประสูติบนเกาะสีชังแห่งนี้ เกาะสีชัง เป็นเกาะใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร ประกอบ ด้วย เกาะสีชัง และเกาะบริวารน้อยใหญ่อีก 8 เกาะ คือ เกาะยายท้าว เกาะค้างคาว เกาะท้ายตาหมื่น เกาะปรง เกาะขามใหญ่ เกาะขามน้อย เกาะสัมปันยื้อ และเกาะร้านดอกไม้  เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็น เกาะที่น่า ท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้



เกาะสีชังเกาะสีชัง

สถานที่ท่องเที่ยวเกาะสีชัง 

1.พระจุฑาธุชราชฐาน
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะสีชัง ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นท่ีี่ประทับในฤดูร้อน มีสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ตามชั้นเนินเขาที่สูงต่ำลดหลั่นกันอย่างงดงามประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์ พระตำหนัก 14 หลัง ศาลา 1 หลัง มีสวนดอกไม้ สระ ธารน้ำ น้ำพุ ถ้ำและหน้าผา ภายในบริเวณมีสภาพ ภูมิทัศน์ที่งดงามตกแต่งตามลักษณะอุทยานในพระราชวังของประเทศตะวันตก ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างดังต่อไปนี้ 
- เรือนเขียว
ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเสด็จมายังเกาะสีชังเป็นประจำโดยเรือกลไฟ และประทับแรมบนเรือ พระที่นั่งโดย มิได้สร้าง สร้างพลับพลาที่ประทับ แต่ในเวลานั้นก็มีเรือนไม้พักผ่อนริมทะเล ปลูกสร้างอยู่แล้วหลังหนึ่ง คือ "เรือนเขียว" ปัจจุบันยังอยู่และมีสภาพที่เรียบร้อยสมบูรณ์


- เรือนผ่องศรี
จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและประวัติบุคคลผู้ที่มีบทบาทสำคัญกับเกาะสีชังในอดีต
- พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์
พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ พระที่นั่งองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านทรงโปรดเกล้าวาง ศิลาฤกษ์ ใน ปี พ.ศ.2435 แต่ขณะที่กำลังก่อสร้างพระที่นั่งองค์นี้ ได้เกิดเหตุความไม่สงบ ร.ศ.112 ขึ้น ต่อมา พระองค์ท่านได้มีพระ ์พระราชองค์การรับสั่งให้รื้อพระที่นั่งองค์นี้ แล้วมาสร้างในพระราชวังสวนดุสิต กรุงเทพ มหานคร และพระราชทานนาม ใหม่ว่า พระที่นั่งวิมานเมฆ ซึ่งองค์พระที่นั่งเป็นเรือนไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก การก่อสร้างนั้นไม่ได้ใช้ตะปูเข้าเรือน เรือนเลยสักตัว เป็นการสร้างเรือนไม้ด้วยช่างไม้หลวงฝีมือชั้นครู ภายใน พระจุฑาธุชราชสถานปัจจุบันเหลือเพียงฐาน ของอาคารซึ่งเป็นคานคอดินที่เหลือให้พวกเรา ได้จินตนาการว่า องค์พระที่นั่งวิมานเมฆได้เคยก่อสร้างเป็นอาคารริมทะเลที่สวยงามอย่างมาก 
- เรือนวัฒนา
จัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชังในสมัยรัชกาลที่ 5 
- สะพานอัษฎางค์ 
อยู่ในบริเวณพระตำหนัก เป็นสะพานที่รัชกาลที่ 5 ท่านทรงใช้เป็นท่าขื้นเทียบเรือหลังจากที่เสด็จประพาสฝรั่งเศส ที่เห็นนี่คือบูรณะใหม่ทั้งหมดแล้ว แต่ว่ายังคงรูปแบบสภาพเดิมทั้งหมด


เกาะสีชังเกาะสีชัง


- อัษฎางค์ประภาคาร
อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีศิลาอยู่ใต้น้ำอยู่ตรงปากช่องทางเรือ ทั้งนี้เพื่อเป็นที่ สังเกต แก่เรือที่จะเดินเข้าออก
- พระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางค์นิมิตร
เป็นพระอุโบสถที่อยู่ในเขตพระราชวัง มีลักษณะแตกต่างจากที่อื่น คือ พระอุโบสถอยู่ใต้เจดีย์ทรงกลมแบบ ลังกาตัวพระ อุโบสถสร้างแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บริเวณพระเจดีย์อุโบสถยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งนำหน่อ มาจากพุทธคยา ประเทศอินเดียปลูกไว้ด้วย พระเจดีย์อุโบสถนี้ที่ตั้งอยู่บนเขา ณ ตำแหน่งที่สูงมองเห็นได้ชัด และจากองค์พระเจดีย์ สามารถมองเห็นทัศนียภาพบริเวณพระราชฐานโดยรอบ รวมถึงภูมิทัศน์ทางทะเลที่สวย


เกาะสีชังเกาะสีชัง


2. ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่  
ตั้งอยู่บนเขาห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ ลักษณะเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็นศาสนสถาน ที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทย จากบริเวณศาลมองเห็น ทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้ชัดเจน


เกาะสีชังอ


3. มณฑปรอยพระพุทธบาท
อยู่สูงขึ้นไปบนยอดเขาเดียวกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ บนยอดเขาเป็น จุดชมทิวทัศน์ทะเลได้โดยรอบ

4.ช่องเขาขาด 

ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา ในบริเวณมีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์สามารถ ชม พระอาทิตย์ตกได้สวยงาม มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลม ๆ ขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็น ที่ตั้ง พลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5


เกาะสีชัง 


5.แหลมมหาวชิราวุธ
แหลมมหาวชิราวุธ คล้ายกับแหลมพรมเทพ แต่เล็กกว่าเป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชัง มีสะพาน ที่ทอดยาวยื่นออกไปยังแหลม นักท่องเที่ยวนิยมไปตกปลาที่นั่นกันมากเพราะเป็นโขดหินมากมายเป็นแหล่งที่อยู่ อาศัยของฝูงปลาหลายชนิด และสวยงามเป็นอย่างมาก แหลมสลิดยังเ็ป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นอีก ด้วยในฤดูหนาวพระอาทิตย์ตกน้ำจะมีดวงใหญ่โตเป็นพิเศษ


เกาะสีชังเกาะสีชัง


6.หาดถ้ำเขาพัง 
ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม มีทรายละเอียด น้ำใสสะอาดเหมาะแก่ การเล่นน้ำการเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างกันพอสมควร จะสะดวก มาก หากจะเช่ารถสามล้อเครื่องจากท่าเทียบเรือไปชมสถานที่ต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็เที่ยวได้ทั่วเกาะ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่อง คิดเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 150-250 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและระยะทาง 


เกาะสีชังเกาะสีชัง


7.แหลมจักรพงษ์
เป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่ง เลยหาดถ้ำพัง ไปทางทิศตะวันตก ใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางไปหาดถ้ำพัง บริเวณริมฝั่ง ทะเลจะเป็นโขดหินขนาดใหญ่ สวยงาม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยงามและมีจุดพักของ นักท่องเที่ยวปลูก เป็นกระโจมเล็กๆกลมกลืนกับบรรยากาศ ได้อย่างสวยงสมและลงตัวลงตัว
การเดินทางไปเกาะสีชัง


การเดินทางไปเกาะสีชัง
1. รถยนต์ส่วนตัว 
จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายบางนา - ตราด มุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี จากตัวเมืองชลบุรี มุ่งหน้าสู่บางแสน (หลักกิโล เมตรที่ 104 ท่านจะถึงแยกขวามือเข้า หาดบางแสน ) จากทางเข้าหาดบางแสน ขับตรงไปประมาณ 13 กิโลเมตร จะถึง ห้าง โรบินสันศรีราชา ซึ่งอยู่ทางขวามือของท่าน ( ตรงห้างโรบินสัน คือ หลักกิโลเมตรที่ 117 ) จากนั้นให้ เลี้ยวขวาตรง ห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะลอย ประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึง ท่าเรือเกาะลอย 
**หากท่านต้องการค้างคืนสามารถจอดรถไว้ืที่ฝั่งเกาะลอยๆได้**
2. รถโดยสารสาธารณะ
สามารถขึ้นรถได้ 2 แห่ง คือ 
- สถานนีเอกมัย นั่งรถกรุงเทพ - สัตหีบ หรือกรุงเทพ - ศรีราชา หรือ กรุงเทพ - พัทยา แล้วไปลงที่ หน้าห้าง โรบินสัน ศรีราชา จากนั้นเดินข้ามฝั่งไปยังห้างโรบินสัน แล้วนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างหรือสามล้อเครื่องไป ยังท่าเรือเกาะลอย ( ค่าโดยสาร 40 บาท )
- สถานีหมอชิตรถออกทุกครึ่งชัวโมง ตั้งแต่เวลา 05.00-20.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ที่มีรถออกตั้งแต่ 04.30 น. 
จากศรีราชา(ท่าเรือเกาะลอย) ไปยังเกาะสีชัง(ท่าเรือเทววงศ์)
มีเรือโดยสารออกจากท่าเรือเกาะลอยทุกวันตั้งแต่ 6.00 -20.00 น. ออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 
15 นาทีจากเกาะสีชังมายังท่าเรือเกาะลอย ศรีราชาก็เช่นกัน แต่ในวันเสาร์อาทิตย์จะเพิ่มรอบเรือเวลา 7.00 น. ด้วย ค่าโดยสาร 40 บาท 
**รายละเอียดสอบถามได้ที่เรือสีชังพาเลซ โทร. 038 216 276-82 หรือ เรือแสงประทีปบริการ 
โทร. 038 313 687
เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างไกลกันพอสมควร นักท่องเที่ยวจึงนิยมเช่ามอเตอร์ืไซต์หรือสามล้อ เครื่อง สกายแลป (นั่งได้ 3- 4คน) ค่ารถมอเตอร์ไซต์วันละ 250 บาท, ค่ารถสกายแลป 150-250 บาท แล้วแต่การ แวะชม สถานที่ท่องเที่ยวจุดใดบ้างซึ่งท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ของเทศบาล ตำบลเกาะสีชัง เทศบาลตำบลเกาะสีชัง 038 216 141


โรงแรม รีสอร์ท ที่พักบนเกาะสีชัง
สีชังพาเลซ 81 หมู่ 1 ถ.อัษฏางค์ ต.เทววงษ์ โทร 081 403 4111,081 372 7087,038 216 030
มาลีบูฮัท โทร โทร 081-654-2211, 085-092-9424
พวงพยอมพวงพยอม ซีบีช รีสอทร์ โทร 081 864 3731,081 723 5726
เกาะสีชังรีสอร์ท โทร 089 125 6598 , 087 148 7474 ,085 973 1403 
เบนส์ บังกะโล 80 หมู่ 3 ถ.อัษฏางค์ ต.เทววงษ์ โทร. 0 3821 6091
ทิวไผ่ เกสท์เฮ้าส์ 8 หมู่ 2 ต.เทววงษ์ โทร. 0 38 216 084-5 
ศรีพิษณุ 28/2 หมู่ 3 ต.เทววงษ์ โทร. 038 216 034 โทรสาร 0 3821 6336 
ถ้ำพังบีช รีสอร์ท 169 หมู่ 3 ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี 20120 โทร. 089 142 7553, 081 860 7360   081 863 3360    
สีชังวิวรีสอร์ท 91 หมู่ 6 ต.เทววงษ์ โทร. 038 216 210-1 ,086-555-6578 
กรีนเฮ้าส์ บังกะโล 84 หมู่ 6 ต.เทววงษ์ โทร. 038 216 024 



 

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เกาะเสม็ด

เกาะเสม็ด article
- เกาะเสม็ด หรือเกาะแก้วพิสดารตั้งอยู่ในเขตตำบลเพ อ.เมือง จ.ระยอง อยู่ห่างจากฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร สภาพของเกาะเสม็ด มีสันเขา เป็นแนวยาว จากตัวเกาะด้านเหนือมาทางใต้ ส่วนฝั่งตะวันตก ของเกาะ เป็นหน้าผาสูง และลาดชันลงสู่ฝั่งตะวันออก ที่มีชายหาดเว้า ทำให้เกิดชายหาด ที่สวยงามหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ จะอยู่ทางด้านเหนือ และตะวันออก ของเกาะเสม็ด
เกาะเสม็ด เป็นเกาะที่มีความสำคัญ ในประวัติศาสตร์ของวรรณกรรมไทย ในยุคต้น ของกรุงรัตนโกสินทร์ ดังปรากฏในวรรณคดีไทย เรื่อง พระอภัยมณี ซึ่งเป็นกวีนิพนธ์ ของกวีเอกของไทย นามสุนทรภู่ โดยเกาะเสม็ด ได้รับการขนานนาม ในกวีนิพนธ์ ว่า "เกาะแก้วพิศดาร" ซึ่งอาจจะมีที่มาจาก หาดทรายบนเกาะเสม็ด ที่ขาวปานแก้ว อยู่ทั่วไปก็ได้ ส่วนสาเหตุที่เกาะแห่งนี้ ได้ชื่อว่า เกาะเสม็ด ก็เพราะว่า เกาะแห่งนี้ มีต้นเสม็ดขาว และเสม็ดแดง ขึ้นอยู่มาก ชาวบ้าน นำมาใช้เป็นไต้จุดไฟ ทำให้เกาะแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเกาะเสม็ด จากสาเหตุนี้เอง -รูปร่างของเกาะเสม็ด มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุด ของเกาะเสม็ด กว้างประมาณ 3 กิโลเมตร ส่วนที่แคบที่สุด อยู่บริเวณ อ่าวกิ่วนอก - อ่าวกิ่วใน ซึ่งกว้างประมาณ 

100 เมตร
จุดเด่นที่น่าสนใจ 


- อ่าวน้อยหน่า
บริเวณอ่าวน้อยหน่านี้ เหมาะสำหรับผู้ที่รักความเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว ถึงอ่าวน้อยหน่า จะอยู่ใกล้หาดทรายแก้ว แต่ความพลุกพล่านเรียกว่าต่างกัน เหมือนอยู่คนละเกาะ ใครที่ชอบความเงียบสงบ อ่านหนังสือ อาบแสงแดดเคล้าน้ำทะเล บริเวณนี้มีหาดทรายที่สะอาด พอที่จะเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ- อ่าวกลาง
บริเวณอ่าวกลางนี้ เป็นที่ตั้งของชุมชนหมู่บ้านเกาะเสม็ด และเป็นที่ตั้งของท่าเรือ บริเวณนี้ ไม่ค่อยจะมีหาดทรายสวยๆ ให้ลงเล่นน้ำมากนัก แต่เหมาะที่จะมาฝากท้องทานอาหาร กับร้านอาหาร บริเวณท่าเรือ มีอยู่หลายร้านให้เลือก สนนราคา เรียกว่า ถูกที่สุดบนเกาะเสม็ดก็ว่าได้ - อ่าวป่าช้า
พื้นที่บริเวณอ่าวป่าช้านี้ แต่ก่อนราวๆ 40-50 ปี ที่แล้วเป็นสถานที่ฝังศพของชาวเกาะเสม็ด แต่ในปัจจุบันนี้ บริเวณนี้ไม่มีการฝังศพอีกแล้ว ส่วนป่าช้าเก่าที่ว่านี้ ได้รับการฌาปนกิจเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี พื้นที่บริเวณนี้ ก็ไม่มีหาดทรายสวยๆ ให้เล่น จะมีก็แต่แนวโขดหิน ให้ปีนป่าย หรือถ้าใครชอบตกปลาโขดหิน บริเวณนี้ก็เหมาะทีเดียว สำหรับนักตกปลาทั้งหลาย ถ้าชอบแค้มปิ้งที่บริเวณนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า คุณกล้าพอหรือเปล่า แต่ถ้าให้ดี ไปพักที่อ่าวลูกโยนจะเหมาะกว่า
- อ่าวลูกโยน
เป็นอีกอ่าวหนึ่งที่มีหาดทรายให้เล่นน้ำ ถึงไม่กว้างมากนัก ที่หาดทรายบริเวณอ่าวลูกโยน ค่อนข้างจะสงบเงียบ ไม่พลุกพล่าน นักท่องเที่ยวบางกลุ่มเลยดูจะชอบมาพัก ที่อ่าวลูกโยนกัน ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบความสงบ อ่าวลูกโยน ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ขอแนะนำ - แหลมใหญ่
บริเวณนี้เหมาะ ที่จะชมพระอาทิตย์ขึ้นมากที่สุด เพราะเป็นแหลมหัวเกาะ และมีเนินเขาเตี้ยๆ ที่พอจะอาศัยเป็นที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ หรือจะเลือกวิวถ่ายรูปสวยๆ บริเวณโขดหินก็เหมาะดี



 


- หาดทรายแก้ว
ชายหาดที่คุ้นหู ที่สุดของนักท่องเที่ยว ที่มาถึงเกาะเสม็ด ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ที่ชอบความหลากหลาย หาดทรายแก้ว เป็นอีกหนึ่งหาด ที่คุณจะชอบ เพราะหาดนี้ไม่เคยหลับ เรียกว่า ตอนเช้าเล่นน้ำทะเล กลางวันอาบแดด ตอนเย็นชมพระอาทิตย์ตก พอค่ำหน่อยก็ดื่มกินอาหาร หรือจะมีแอลกอฮอล์นิดหน่อย เคล้าแสงจันทร์ก็ดูไม่เลว มีกิจกรรมให้ทำ ทั้งวันที่หาดทรายแก้ว เหมาะสำหรับคนขี้เหงา และชอบความพลุกพล่าน ของผู้คน ที่หาดนี้ เป็นแหล่งรวมของเครื่องเล่นกีฬาทางน้ำ ทุกประเภท ที่มีบนเกาะทั้งเจ็ทสกี บานาน่าโบต เรือใบ ฯลฯ เอาเป็นว่า หาดนี้ หาดเดียวกับวันพักผ่อนหรือ วันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ทำให้คุณลืมเวลาได้ไม่ยากข้อแนะนำ: สำหรับนักท่องเที่ยว ที่รักความสะดวกสบาย ที่หาดทรายแก้ว มีบ้านพักหลายประเภทให้เลือก ในสนนราคาที่ขึ้นอยู่กับว่า มีออฟชั่นอย่างแอร์ พัดลม ตู้เย็น มีให้เพียบพร้อมขนาดไหน - อ่าวไผ่
อ่าวไผ่มีชายหาด ที่ติดกับหาดทรายแก้ว คั่นกันแค่โขดหิน ไม่ใหญ่นัก นักท่องเที่ยวส่วนมาก จะเหมาเดินเที่ยว หาดทรายแก้ว ไล่ไปจนถึงอ่าวไผ่ แล้วเดินย้อนกลับมา ใช้เวลาไม่มากนัก ที่อ่าวไผ่ บริเวณโขดหิน มีวิวที่สวยงาม เหมาะที่จะอาบแดด ถ่ายรูป ฯลฯ หาดทรายบริเวณอ่าวไผ่ ก็เป็นอีกแห่งหนึ่ง ที่จะเห็นนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ มานอนอาบแดดกัน ถ้าหาที่ว่างที่หาดทรายแก้วไม่ได้ อ่าวไผ่นี่แหละ บรรยากาศคล้ายๆ กัน ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ สำหรับนักท่องเที่ยว อย่างเราๆ
ข้อแนะนำ: สำหรับนักท่องเที่ยว ที่มาเล่นน้ำที่อ่าวไผ่ จะมีจุดน้ำวนอยู่ ไม่ควรลงเล่นน้ำที่บริเวณนั้น (สังเกตได้จากธงสีแดง ที่ปักอยู่) - อ่าวพุทรา
อ่าวเล็กๆ ที่เงียบสงบ ไม่ค่อยจะมีนักท่องเที่ยว มาส่งเสียงรบกวนสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่าหาดนี้ เป็นหาดเล็กๆ เดินแป๊บเดียวก็ทั่ว นักท่องเที่ยว ชาวไทย เลยไม่ค่อยจะสนใจ แต่สำหรับชาวต่างชาติแล้ว อ่าวพุทรา เป็นเหมือนกับที่พักผ่อนโดยแท้ ถ้ามาที่อ่าวนี้ ภาพที่เห็นจนชินตาคือ นักท่องเที่ยว นั่งบ้าง นอนบ้าง อ่านหนังสือ อาบแดด จิบกาแฟ เหมือนกับไม่ได้มาเที่ยวทะเลอย่างนั้นแหละ - อ่าวทับทิม
อ่าวเล็กๆ ที่มีพื้นที่ติดกันหรือ จะเรียกว่าเป็นพื้นที่เดียวกับอ่าวพุทราก็ว่าได้ รวมๆ แล้ว ก็เป็นอ่าวเล็กๆ ที่เงียบสงบน่าพัก สำหรับหาดทรายและสถานที่เล่นน้ำทะเลแล้ว ที่อ่าวทับทิม เรียกว่าสะอาดพอสมควร ที่อ่าวทับทิม เป็นอีกอ่าวหนึ่งที่น่าพักผ่อนในวันหยุด




จุดเด่นที่น่าสนใจ 
 
- อ่าวนวล
อ่าวเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่สำหรับนักท่องเที่ยว ที่รักความสงบเงียบ อย่างแท้จริงแล้ว อ่าวนวล เป็นอีกอ่าวหนึ่งที่ขอแนะนำ มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก ที่ชอบมาพักผ่อนที่อ่าวนี้ แต่ถ้าใครมาพักผ่อนที่อ่าวนี้ ก็บอกได้เลยว่า เป็นนักท่องเที่ยวที่มากินลม ชมความเงียบโดยแท้ สิ่งอำนวยความสะดวก ที่อ่าวนวล มีไม่มาก บังกาโล มีเพียงแห่งเดียว ที่เปิดรองรับนักท่องเที่ยว
- อ่าวช่อ/อ่าวทานตะวัน
ที่รวมสองอ่าวนี้ เป็นอ่าวเดียวกัน ก็เพราะว่าอ่าวนี้ เดิมชื่อว่า อ่าวช่อ แต่ต่อมามีเรียกกันหลายชื่อ ทำให้เกิดความสับสน กับนักท่องเที่ยว พอสมควร ถ้าดูจริงๆ แล้ว อ่าวช่อ และอ่าวทานตะวัน ก็มีโค้งอ่าวที่ติดต่อกัน แต่เรียกชื่อกันตามรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ ในแต่ละตำแหน่งเท่านั้น 
โดยรวมอ่าวช่อ เป็นอ่าวที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ผู้คน ไม่พลุกพล่าน หาดทรายขาว และสวยงาม ลงตัวดี กับวันพักผ่อนของคุณ
อ่าววงเดือน
อ่าวที่คุ้นหูนักท่องเที่ยวอีกอ่าวหนึ่ง เพราะเรือโดยสารประจำทาง ที่มาจากท่าศาลา จะมาส่งนักท่องเที่ยว ที่อ่าวนี้ เป็นประจำ ถ้าจะบอกว่า เป็นป้ายสุดท้าย ของเรือโดยสารก็ไม่ผิดนัก 
อ่าววงเดือน คึกคักพอๆ กับหาดทรายขาว แต่ที่อ่าววงเดือน คุณสามารถเลือกได้หลายบรรยากาศ ถ้าต้องการความสงบเงียบ ก็ต้องทางด้านหัวอ่าว ส่วนคนที่รักความคึกคัก ต้องเลือกกลาวอ่าว ถ้าชอบนั่งกินบรรยากาศ ให้คุณเลือกตามความต้องการอย่างที่บอก - อ่าวแสงเทียน
อ่าวแสงเทียน เป็นอ่าวที่ เงียบสงบ ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน นักท่องเที่ยวที่มาพักอ่าวนี้ โดยมาก เน้นความสงบ เป็นส่วนใหญ่ หาดทรายของอ่าวแสงเทียน ถ้าจะว่าไปแล้ว สะอาดกว่าด้าวหัวเกาะเสียด้วยซ้ำไป ก็เป็นเพราะนักท่องเที่ยวที่มาพักที่หาดนี้ น้อยกว่า ทำให้ธรรมชาติบริเวณนี้ ยังคงรักษาความสวยงาม ตามธรรมชาติได้ ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ประเภทกินลมชมวิว นอนนับดาวแล้วละก็ อ่าวแสงเทียน เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่คุณไม่ควรพลาด ที่จะมาพักผ่อน





- อ่าวหวาย
ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ยิ่งไกลจากหัวเกาะ และนักท่องเที่ยวน้อยลงเท่าไหร่ ธรรมชาติ ก็ยังคงความสวยงามแบบเดิมไว้มากเท่านั้น อ่าวหวาย ก็เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ยังคงความสวยงามแบบเดิมไว้ ที่อ่าวหวาย เหมาะกับนักท่องเที่ยว ที่รักความสงบ และเป็นส่วนตัว ที่อ่าวหวาย มีรีสอร์ทเพียงแห่งเดียว ดูแล้วค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว และสงบพอสมควร เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่ขอแนะนำ 
- อ่าวกิ่วนอก
อ่าวที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการสัมผัสธรรมชาติ อย่างแท้จริง ที่นี่ หาดทรายขาวเสียจนน่าอิจฉา จากจุดนี้สามารถมองเห็นเกาะหินขาวได้อย่างชัดเจน ที่อ่าวกิ่วหน้านอก นี้ เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ โดยใช้เวลาเดินไม่นาน ระยะทางประมาณ 100 เมตร ก็จะถึง อ่าวกิ่วหน้าใน ซึ่งเป็นจุดชมวิว ที่หลายคนมองข้ามไป เนื่องจากด้านอ่าวกิ่วหน้าใน เป็นแนวโขดหิน สถานที่ท่องเที่ยว จึงมีไม่มาก แต่เหมาะจะเป็นจุดชมวิว ดื่มกินบรรยากาศ ของเสม็ดที่ดีอีกแห่งหนึ่ง- อ่าวกะรัง
อ่าวที่สงบเงียบ และไม่มีผู้คนพลุกพล่านอย่างแท้จริง อ่าวนี้มีหาดทรายเล็กๆ พอที่จะลงเล่นน้ำ และชมประการังได้ จุดชมวิวบริเวณแหลมกุด ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ถ้าคุณมาท่องเที่ยวที่เกาะเสม็ด โดยเจาะจงมาพักที่อ่าวกะรัง (ปะการัง แค้มปิ้ง) ในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. คุณจะได้พบกับนักตกปลา มาที่นี่กันมากสักหน่อย เพราะว่าช่วงนั้น จะเป็นช่วงที่ปลาอินทรีย์ จะมีมาก บริเวณอ่าวกะรัง โดยเฉพาะหมายตกปลาที่คุ้นหู นักตกปลากันทั่วไปคือ ร่องจันทร์ และสันฉลาม ซึ่งเป็นเกาะหินเล็กๆ ที่สามารถมองเห็นจากอ่าวกะรังได้ 
- อ่าวเตย
สุดท้ายปลายเกาะเสม็ด บริเวณนี้ เป็นโขดหินเสียเป็นส่วนใหญ่ เหมาะเป็นสถานที่ตกปลา และกินลมชมวิว มากกว่า จุดนี้ สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้ โดยมีโขดหินเป็นโฟร์กราวด์
แหลมเรือแตก
จุดชมวิวที่ไม่เหมาะลงเล่นน้ำอีกเช่นกัน เพราะพื้นที่นี้เป็นหน้าผาชัน และเป็นแนวโขดหิน เหมาะจะใช้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก และทอดสายตาไปสู่ฝั่งแผ่นดินมากกว่า ข้อดีของจุดนี้คือ มีลมโกรกทั้งวัน ถึงจะไม่มีหาดทรายให้เล่น แต่วิวที่จุดนี้ก็สวยไม่น้อย
อ่าวพร้าว
จุดชมพระอาทิตย์ที่ติดปากนักท่องเที่ยว จากปากต่อปากของนักท่องเที่ยว ที่อ่าวพร้าว เป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยที่สุด การเดินทางจากท่าศาลา ใช้เวลาไม่มากนัก อ่าวพร้าวจึงเป็นอีกแห่งหนึ่ง ที่เราจะเห็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มาพักกันมากที่อ่าวนี้
อ่าวขาม
เป็นอ่าวหิน ที่ไม่ค่อยมีคนนิยมไปเที่ยว กันมากนัก นอกจากจะนั่งเรือผ่านมาขึ้นทางอ่าวพร้าว ลักษณะภูมิประเทศ ของอ่าวขาม คล้ายๆ กับแหลมเรือแตก


- หมู่เกาะกุฎี
จากทางบ้านเพ ก่อนถึงเกาะเสม็ด ทางด้านซ้ายมือ จะเห็นหมู่เกาะเล็กๆ 3-4 เกาะอยู่ นั่นคือ หมู่เกาะกุฎี ซึ่งประกอบไปด้วย เกาะกุฎี เกาะค้างคาว เกาะขาม เกาะกรวย เกาะปลาตีน





- เกาะกุฎี
เกาะที่สวยงามอีกเกาะหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยว ไปเยือนปีละไม่มาก อาจจะเป็นเพราะว่า นักท่องเที่ยว ไม่ค่อยที่จะคุ้นหูก็ว่าได้ ธรรมชาติ รอบเกาะกุฎี เรียกได้ว่าสวยงาม และคงเดิมมาก แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะกุฎี ก็มีหลายจุด ที่เด่นๆ ได้แก่ หาดสินสมุทร อ่าวหูกวาง ผานิลมังกร ถ้ำฤๅษี จากจุดชมวิว ที่เกาะกุฎี สามารถมองเห็นเกาะค้างคาวได้อย่างชัดเจน ที่เกาะกุฎี มีหาดทรายขาว ยาวพอสมควร ในนักท่องเที่ยว ได้เล่นกัน น้ำทะเลที่หาดนี้ เรียกว่า มองเห็นพื้นทราย และแนวประการังได้อย่างเต็มตา
- เกาะค้างคาว
เกาะเล็กๆ ข้างเกาะกุฎี มีหาดทรายเล็กๆ ไม่เหมาะที่จะไปพัก ต้องนำเรือไป จึงจะขึ้นเกาะได้
- เกาะกรวย - เกาะขาม
เกาะกรวย และเกาะขาม เป็นเกาะเล็กๆ ที่สามารถเดินถึงกันได้ โดยมีสันทรายเล็กๆ เชื่อมต่อกันระหว่างเกาะทั้งสอง เกาะขาม เหมาะที่จะพักผ่อนแค้มปิ้งมากกว่าเกาะกรวย เนื่องจากเกาะขาม มีหาดทรายขาว และแนวต้นไม้ที่พอจะตั้งแคมป์ได้อย่างไม่ลำบากมากนัก ติดขัดอย่างเดียว ก็คือ เรื่องน้ำที่ต้องเตรียมไปเอง
- เกาะปลาตีน
เกาะยาวที่อยู่ถัดจากเกาะกรวยและเกาะขาม เป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ และนักท่องเที่ยวไม่นิยมมาเที่ยวเกาะนี้กัน เนื่องจากไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เหมาะจะเป็นที่ปลีกวิเวกมากกว่า
- เกาะทะลุ
เกาะที่ขึ้นชื่ออีกเกาะหนึ่ง ของหมู่เกาะเสม็ด เกาะนี้มีธรรมชาติ หาดทรายที่สวยงาม ถึงหาดทรายจะสั้น แต่ก็สวยพอที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว จากบนฝั่ง และที่เกาะเสม็ด มาเยือนไม่ได้ขาด
** หมายเหตุ การท่องเที่ยวตามเกาะ ต้องเหมาเรือ ให้ไปส่ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 2,000 บาท

(ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร)